วิทยาลัยศิลปหัตถกรรมกรุงเทพ

Frankshin Article

ผู้ขับรถ
ฝากถึงผู้ขับรถที่มัวแต่มองหน้าจอ ไม่ได้มองถนนที่อยู่ตรงหน้า
มติชนออนไลน์ วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20:54:55 น

มีการแชร์กระทู้ที่ตั้งโดยสมาชิกของเว็บไซต์พันทิป บอกเล่าเรื่องราวของลูก ที่เขียนเล่าถึงนิสัยการติดโทรศัพท์มือถือของ มารดา ขณะกำลังขับขี่รถยนต์ มติชนออนไลน์ เห็นว่าน่าสนใจจึงขอนำมาเผยแพร่ โดยผู้ตั้งกระทู้ดังกล่าวได้พยายามระบายความในใจ โดยเฉพาะความต้องการให้ผู้ขับขี่มีจิตสำนึกในการขับขี่ ขณะที่สมาชิกในเว็บไซต์ดังกล่าวจำนวนมาก ต่างเเสดงความเห็นใจ พร้อมเรียกร้องให้ผู้ขับขี่รถยนต์มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้ใช้ถนน มีรายละเอียดดังนี้
'...สวัสดีค่ะ ในฐานะที่เราเป็นเด็ก วันนี้อยากจะขอเตือนอะไรใครบางคนที่อาจคิดว่าเรื่องแบบนี้ก็ไม่เห็นจะต้องสนใจอะไร ซึ่งส่วนมากก็เป็นพวกผู้ใหญ่ที่วันๆก้มหน้าก้มตาอยู่กับจอโทรศัพท์ และแม่เราก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่มาพูดไม่ได้จะมาแฉแม่ตัวเองนะคะ อยากฝากไว้ให้ผู้ใหญ่ทุก ๆ คนได้อ่าน ตัวเราก็ยังเป็นนักเรียน ซึ่งแน่นอนว่า เวลาไปโรงเรียนแม่เราจะขับรถไปรับไปส่ง แต่จริง ๆ ก็ทุก ๆ เรื่องนั่นแหละค่ะ ไปเรียน ไปเที่ยว ไปธุระ แม่ก็ขับไปส่งให้ แม่เป็นคนที่ติด Social เราก็ไม่ได้จะว่าอะไรท่านนะ แต่ติดแม้กระทั่งตอนขับรถ ยิ่งตอนติดไฟแดง แม่ยิ่งก้มหน้าก้มตากด คุยกับเพื่อนที่ทำงานบ้าง เล่นเกมบ้าง ปะปนกันไป ซึ่งเราเองก็เป็นผู้โดยสาร มีสิทธิ์นั่งอย่างเดียว อีกอย่างถ้าเกิดอะไรขึ้น การควบคุมรถมันก็อยู่ที่แม่เราเท่านั้น ทำไมแม่ไม่จอดรถแล้วคุยซะให้เสร็จ เวลาเราเห็นแม่เล่นทีไรนะ ใจเราตกไปอยู่ที่ตาตุ่มตลอด เวลาขับบนทางด่วนเนี่ย ถนนมันจะโล่ง แม่ก็เป็นคนขับเร็วอยู่แล้ว ติดมือถืออยู่แล้ว อันตรายมาก แต่ก็มีบางครั้งที่แม่ให้เราพิมพ์ให้ไลน์ให้แทน เราว่าก็ดีกว่าให้แม่เอาชีวิตทุกคนในรถไปเสี่ยงกับแป้นพิมพ์บนไอโฟนนั้น ซึ่งเราก็ไม่มีปัญหาถ้าแม่ให้เราพิมพ์ให้ แม่ก็พูดสิ่งที่แม่จะให้เราพิมพ์ และก็ขับรถไปด้วย อย่างน้อยมือสองข้างก็ยังจับพวงมาลัย อันนี้โอเคกว่าว่าไหมคะ

แต่เวลาส่วนใหญ่ในรถเรามันแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย เพราะแม่นั่งกด บางครั้งก็โทรคุยกับเพื่อน ไม่ใช่แค่ใช้มือถือโทรศัพท์แนบหูนะ แต่มืออีกข้างที่จับพวงมาลัย บางทีแม่ก็เอาออกมา ทำท่าทางเวลาพูดโทรศัพท์ (นึกภาพตามนะคะ ตัวอย่างเช่น แม่คุยกับคนในสายแม่บอกเค้าว่าไม่ แล้วแม่ก็จะเอามือออกจากพวงมาลัยที่จับไว้แล้วเอามือมาโบกๆทำท่าเหมือนจะบอกว่าไม่ คือเราก็ไม่เข้าใจว่าถ้าทำท่าทำทางแล้วคนที่อยู่ในสายของแม่ เค้าจะเห็นรึไง คือทำเพื่อ? อาจฟังเป็นเรื่องตลกนะคะ แต่มันก็เกิดขึ้นจริง เวลาเจอแบบนี้เราตลกไม่ออกเลยจริงๆ) คือ ถือไปด้วย เล่นมือเล่นไม้ไปด้วย สรุปไม่มีอะไรจับพวงมาลัยเลย เราก็ได้แต่มอง พูดไปก็ถูกว่ากลับมาแน่ๆ เป็นแบบนี่หลายครั้งค่ะ แต่แม่เราก็ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเล่นมือถือในรถนะ เพราะไม่เคยเกิดอุบัติเหตุอะไรเลย (มีแค่ เกือบชนท้ายรถคนอื่น แต่เบรคทัน) และที่เกิดบ่อยมาก ๆ ก็คือ แม่กดอย่างเดียวไม่มองรถข้างหน้าว่าขับไปถึงไหนแล้ว รถคันหลังต้องบีบแตร แม่ถึงจะเงยหน้าสะดุ้งขึ้นมาจับพวงมาลัย หรือบางทีเราก็ต้องบอกแม่เอง

ที่พูดมาเราแค่อยากระบายคือถ้าคุณจะคุย คุณก็ไปจอดรถคุย ที่พักรถเค้าก็มีให้ ไม่ใช่เอาชีวิตคนในรถไปเสี่ยงกับไอโฟนบ้า ๆ พวกนั้น ต้องรอให้เกิดอุบัติเหตุก่อนใช่ไหม คุณถึงจะไม่เล่นอีก ส่วนเรายังไม่เคยพูดกับแม่เรื่องนี้ เคยแต่พูดประมาณว่า ทำไมแม่ต้องเล่นโทรศัพท์ตอนขับรถด้วย แม่ก็บอกคุยงาน เราก็ไม่รู้จะพูดอะไร เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราไปสอนเค้าอีก คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ฝากไว้นะคะ ว่าอย่าทำ คนที่เค้านั่งรถมากับคุณด้วยเค้าต้องมาฝากชีวิตไว้กับคุณ แทนที่คุณจะสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือ ถนน คุณกลับไปสนใจในสิ่งที่อยู่ข้างล่าง คือ มือถือ แล้วคนที่เค้านั่งรถร่วมกับคุณด้วยเค้าจะรู้สึกอย่างไรคะ...'

มติชนออนไลน์ ติดต่อสอบถามความเห็นถึงปัญหาการใช้ถนนและการเคารพกฏหมายของคนไทย ไปยัง พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลด้านงานจราจร โดย พล.ต.ต.นิพนธ์ เปิดเผยว่า แม้ตำรวจนครบาลจะเคยมีนโยบายในการรณรงค์ รวมถึงพยายามบังคับใช้กฏหมายด้วยการจับกุม แต่ที่ผ่านมา ผลการจับกุมไม่ประสบความสำเร็จ เพราะการควบคุม และดำเนินการทางกฏหมายเป็นไปอย่างยากลำบาก มีคนจำนวนมากฝ่าฝืน ไม่ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงพยายามจับกุมและดำเนินการตามกฏหมาย ควบคุมไม่ให้ประชาชนใช้โทรศัพท์ขณะขับรถอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พล.ต.ต.นิพนธ์ เห็นว่า การบังคับใช้กฏหมายที่เด็ดขาด ที่ผ่านมามีกฏหมายกำหนดโทษปรับ 1,000 - 2,000 บาท แม้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็ต้องยอมรับว่า จิตสำนึกในการเคารพกฏหมายและเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า สิ่งที่ดีที่สุดคือประชาชนผู้ใช้รถจะต้องร่วมมือร่วมใจ หยุดใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ โดยเฉพาะการใช้เล่นโซเชียลมีเดีย ถือเป็นเรื่องที่ผิดอย่างมาก และไม่คำนึงถึงชีวิตคนอื่นเลย

post on Friday 20^th March 2015.

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

Size : 58.42 KBs
Upload : 2015-03-20 15:50:57

Size : 49.72 KBs
Upload : 2015-03-20 15:50:57

Size : 12.57 KBs
Upload : 2015-03-20 15:50:57

Size : 57.60 KBs
Upload : 2015-03-20 15:50:57

ติชม

กำลังแสดงหน้า 1/0

ต้องการให้คะแนนบทความนี้่ ?

คะแนนโหวด

สร้างโดย :

Frankshin

สถานะ : ผู้ใช้ทั่วไป
สามัญสัมพันธ์

วิทยาลัยศิลปหัตถกรรมกรุงเทพ เลขที่ 89 ลาดพร้าว101 คลองจั่น บางกะปิ กรุงเทพฯ10240	Generated 0.028479 sec.